มากินแตงกวาดับร้อนกันดีกว่า



คุณทราบหรือไม่ว่าในแตงกวานั้นได้มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมากถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ในสมัยก่อนเวลาจะเดินทางไปไหนยามอากาศร้อนๆ การที่จะต้องพกพาน้ำไปไหนต่อไหนด้วยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นคนสมัยก่อนจึงมักจะกินแตงกวาเพื่อดับกระหาย แถมเมื่อกินแตงกวาแล้วร่างกายก็จะเย็นลงด้วย

คนในยุคโบราณไม่ว่าจะไทย จีน หรืออินเดีย มีความเห็นที่ตรงกันว่าแตงกวาเป็นยาเย็น ผลของแตงกวาจึงถูกนำมาใช้เป็นยาแก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำ ไม่เฉพาะผลเท่านั้นทั้งใบ เถา และรากแตงกวาก็เป็นยาเย็นได้เหมือนๆ กัน

นอกจากนั้นผลของแตงกวา ยังสามารถนำมาใช้เพื่อแก้อาการเจ็บคอ บรรเทาอาการหวัดที่เกิดยามอากาศเปลี่ยนเป็นร้อน และขับปัสสาวะให้ร่างกายคลายร้อนได้เป็นอย่างดีด้วย

น้ำคั้นจากผลของแตงกวาสามารถนำมาดื่มเพื่อลดน้ำตาลในเลือด แก้กรดไหลย้อน และขับปัสสาวะได้ดี

ผลแตงกวาส่วนหัวที่ติดกับขั้วมักจะมีรสขม คนส่วนใหญ่มักจะไม่นิยมกินกัน ในการเก็บแตงกวาเวลาเด็ดก้านออก จะพบว่ามียางสีขาวๆ ไหลออกมา จึงมักจะนำส่วนขั้วไปถูกระตุ้นให้ยางและความขมของมันออกมาให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการลดความขมในเนื้อแตง แต่ความจริงแล้วความขมของแตงกวา ก็คือสารชนิดหนึ่งชื่อเรียกว่าคิวเคอร์บิตาซิน จากการนำสารตัวนี้ไปทดลองในสัตว์ให้ผลที่น่าสนใจ คือมีฤทธิ์ในการต่อต้านการเจริญเติบโตของเนื้องอก

เมล็ดของแตงกวามีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ แต่มีพิวรีนสูงหากใครที่เป็นโรคเกาต์ มียูริกในร่างกายสูง จึงไม่ควรกินเมล็ดของแตง แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือว่าอยากกินแตงกวาก็สามารถกินได้ แต่ควรขูดเอาไส้และเมล็ดทิ้งเสียก่อนจึงจะกินได้

เมื่อทราบสรรพคุณที่มีอยู่มากมายในแตงกวาแล้ว อากาศร้อนๆ อย่างบ้านเราจึงอยากแนะนำให้หันมากินแตงกวากันให้มากๆ ดีกว่าค่ะ นอกจากสุขภาพดีแล้วยังช่วยเกษตรกรของเราให้มีรายได้ รักไทยกินของไทยดีกว่าค่ะ

 
Design by Pitchaya.net | Bloggerized by สูตรอาหาร | ขายลำไยอบแห้ง ลองกานอยด์ Health Lover นิ้วล็อค สารสกัดงาดำ เอมมูร่า เซซามิน