หลายคนคิดว่าไม่มีความจำเป็น ในเมื่อเรารักกัน เรารู้จักกันดีแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน บางคนก็กลัวแฟนจะเข้าใจผิดว่าไม่ไว้ใจเค้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นการตรวจสุขภาพ เพื่อเช็คสภาพความพร้อมและความสมบูรณ์ของร่างกาย เนื่องจากคนที่จะแต่งงานส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวัยเจริญพันธ์ เป็นช่วงที่สุขภาพค่อนข้างดี ถึงแม้จะมีโรคประจำตัวแต่ก็มักไม่มีอาการ แต่ในอนาคตอาจเป็นพาหะนำโรคไปสู่คู่สมรสหรือว่าลูกน้อยที่เกิดขึ้นมาในอนาคตด้วย ฉะนั้นเหตุผลที่เราจะต้องตรวจสุขภาพก็คือ
1. เพื่อสกัดกั้นการส่งผ่านโรคสู่คนที่เรารัก
2. เพื่อตรวจความพร้อมของคุณแม่มือใหม่
3. เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
4. เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เค้าตรวจอะไรกันบ้าง
1. ตรวจร่างกายทั่วไปโดยละเอียด เช่น เช็คความดันโลหิต , วัณโรค , โลหิตจาง
2. ตรวจดูระดับความสมบรูณ์ของเม็ดเลือด เนื่องจากโรคเกี่ยวกับเลือดสามารถติดต่อทางพันธุกรรม ไปสู่ลูกได้ เช่น
- โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคเลือดที่มีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ คือ ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ส่งผลให้ลูกมีการเจริญเติบโตช้า ไม่สมอายุ เด็กบางคน ตับ ม้ามโต ตัวซีดเหลือง หากมีอาการรุนแรง มีอันตรายถึงชึวิตได้
- โรคฮีโมฟีเลีย เป็นความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ มีอาการเลือดออกง่าย และหยุดยาก
- โรคพร่องเอนไซม์ G-6-PD เป็นโรคที่ติดตัวตลอดชีวิต หากเม็ดเลือดแดงเอนไซด์แตก ลูกจะตัวซีดเหลือง มีอาการเหมือนดีซ่าน ถ้าเม็ดเลือดแตกมาก ก็อาจช็อกได้
3. ตรวจกรุ๊ปเลือด เพื่อสะดวกในกรณีที่ต้องการเลือดฉุกเฉิน
4. ตรวจหาเชื้อเอดส์ เป็นโรคที่ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด และสามารถติดต่อจากแม่ไปสู่ลูกได้ เป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้
5. ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส เป็นโรคที่ติดทางเพศสัมพันธ์ และอาจเกิดกับทารกที่มีมารดาเป็นซิฟิลิส
6. ตรวจหาเชื้อและหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคที่สามารถติดต่อไปยังลูก และคู่สมรส ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับ และโรคตับแข็ง เราสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนคุ้มกัน ดังนั้นก่อนที่เราจะฉีดวัคซีน ทางโรงพยาบาลจะขอตรวจเลือดเพื่อเช็คว่าเรามีภูมิคุ้มกันแล้วหรือยัง
7. ตรวจหาภูมิคุ้มกันเชื้อหัดเยอรมัน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีไข้ ข้ออักเสบ ต่อมน้ำ-เหลืองโต เป็นผื่นตามตัว และเป็นโรคที่สามารถติดต่อไปยังลูกและคู่สมรสได้ ถ้าโรคนี้เป็นในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกที่อยู่ในครรภ์พิการ คุณหมอจึงแนะนำให้ว่าที่คุณแม่ทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน ก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์ 2 เดือน ซึ่งก่อนที่จะฉีด คุณหมอต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่า ไม่ได้ตั้งครรภ์
โปรแกรมตรวจสุขภาพที่แต่ละโรงพยาบาลกำหนดไว้สำหรับคู่แต่งงาน
1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจวัดความดันโลหิต / วัดชีพจร / ชั่งน้ำหนัก / วัดส่วนสูง
3. ตรวจหาหมู่เลือด
4. ตรวจชนิดของกลุ่มเลือด
5. ตรวจนับปริมาณ และ ชนิดของเม็ดเลือด
6. ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
7. ตรวจกามโรค หรือ ซิฟิลิส
8. ตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส์
9. ตรวจปัสสาวะอย่างสมบูรณ์
10. ตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมของเม็ดเลือดแดง
11. ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน