หัวข้อพิเศษในการบรรยายเรื่อง "โรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ : สถานการณ์ บทเรียนและการจัดการ"ในงานการประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 13 นายแพทย์ทวี โชติทิพยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันสุขภาพ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวไว้ว่า ในปี 2554 ยังคงต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ถึงแม้ในประเทศไทยจะไม่มีการระบาด แต่ก็ยังพบว่าได้มีการแพร่ระบาดอยู่ในอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น กัมพูชา เวียดนาม พม่าและอินโดนีเซีย สถิติการแพร่ระบาดทั่วโลกของโรคไข้หวัดนก 40 ราย ใน 4 เดือนแรกปี 2554 มีผู้ได้รับเชื้อไข้หวัดนกกว่า 30 ราย ได้เสียชีวิตประมาณ 60 - 70% ดังนั้นประเทศไทยเองจึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดใน 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่มแรกที่ควรเฝ้าระวังคือในกลุ่มคน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคปอดบวม
- เฝ้าระวังในกลุ่มสัตว์
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าหน่วยวิจัยอณูชีววิทยาทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัส 3 สายพันธุ์ ในช่วงที่ผ่านมาได้แก่
1. ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
2. ไข้หวัดใหญ่ชนิดบี
3. ไข้หวัดใหญ่ 2009
แต่ต่อมานี้ในช่วงปี 2554 ไข้หวัด 2009 ยังพบแบบประปรายเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแต่ไม่มีเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในประมาณกลางเดือน พ.ค.นี้น่าจะมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั้ง 3 สายพันธุ์นี้อีกรอบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นทุกปี อยู่ที่ว่าสายพันธุ์ใดจะเด่นกว่ากันเท่านั้นเอง ส่วนตนเองคิดว่าไข้หวัด 2009 คงจะไม่ระบาดอย่างรวดเร็วเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
อ้างอิงจากไทยโพสต์