Showing posts with label โรคน้ำกัดเท้า. Show all posts
Showing posts with label โรคน้ำกัดเท้า. Show all posts

ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไรในวิกฤตการณ์น้ำท่วม


อุทกภัยที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองเราในขณะนี้ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นเราควรรู้เท่าทันและป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นได้ ภัยที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คือ อันตรายจากกระแสไฟฟ้า ดังนั้นควรสำรวจสายไฟฟ้า ปลั๊กไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งในระดับต่ำ ต้องรีบทำการขนย้ายให้สูงพ้นระดับน้ำ หากว่าน้ำได้ท่วมถึงระดับปลั๊กไฟแล้ว ให้รีบปลดคัทเอาท์โดยทันที ให้ตรวจสอบสายไฟที่แช่น้ำ เพราะอาจจะมีกระแสไฟฟ้ารั่วได้ หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เสาเหล็กที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้า ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทำการเคลื่อนย้ายไม่ทันเพราะถูกน้ำท่วมแล้ว ควรหยุดใช้งานจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบสภาพโดยช่างผู้ชำนาญเสียก่อน

ตรวจสอบสวิตซ์ไฟฟ้าว่ามีน้ำเข้าหรือถูกฝนสาดหรือไม่ เพราะการกดกริ่งที่เปียกชื้น ขณะเท้าแช่น้ำอยู่ อาจถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้มากกว่าปกติ ถ้าเปียกน้ำอย่าแตะต้องอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ และเมื่อพบคนถูกไฟฟ้าช็อต จะต้องสับสะพานไฟลง (สับคัดเอาท์ลง) เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่หากไม่สามารถสับสะพานไฟลงได้ ห้ามใช้มือไปจับต้องคนที่กำลังถูกไฟช็อต ให้ใช้สิ่งที่ไม่นำไฟฟ้า เช่น ไม้กวาด ไม้ (ที่ไม่เปียกน้ำ) เขี่ยสายไฟออกจากตัวผู้ถูกไฟฟ้าช็อต และเมื่อผู้บาดเจ็บหลุดออกมาแล้ว รีบปฐมพยาบาล ถ้าหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจ หากคลำชีพจรไม่ได้ ให้นวดหัวใจแล้วรีบส่งโรงพยาบาลทันที หรือต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินของศูนย์นเรนทร ให้โทรสายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางศูนย์นเรนทรมีหน่วยกู้ชีพและช่วยเหลือกรณีเจ็บป่วยและอุบัติเหตุฉุกเฉินที่เป็นเครือข่าย จะให้บริการอย่างทันท่วงที

เมื่อเกิดน้ำท่วม สัตว์ต่างๆ รวมทั้งสัตว์ร้ายและแมลงมีพิษ ต่างก็หนีน้ำ เช่น งู ตะขาบ แมลงป่อง อาจจะเข้ามาหลบมาอาศัยอยู่ในบ้านหรือบริเวณบ้าน จึงต้องระมัดระวังป้องกันอย่างดีและหากถูกแมลงหรือสัตว์มีพิษกัดต่อยควรทำการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง ถูกแมลงกัดต่อย ให้พยายามถอนเหล็กไนออกโดยทันที หาหลอดกาแฟแข็งหรือปากกาครอบ แล้วกดลงไปให้เหล็กไนโผล่แล้วดึงเหล็กไนออก แล้วใช้ยาแก้แพ้ทา หรือราดด้วยน้ำโซดา หรือประคบด้วยน้ำแข็ง ซึ่งปกติอาการบวมจะลดลงภายใน 1 วัน ถ้ามีอาการปวดร่วมด้วยให้กินยาแก้ปวด (พาราเซตามอล) แต่ถ้ามีอาการแพ้มาก เช่น บวมมากและอาการบวมไม่ลดลงใน 1 วัน ให้รีบไปพบแพทย์

หากถูกงูกัด ให้สังเกตดูรอยแผล ถ้าเป็นงูพิษจะมีรอยเขี้ยว ให้ผู้ป่วยนอนลง โดยให้ส่วนขา แขน ที่ถูกกัดห้อยลงต่ำกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ใช้ผ้า เชือก หรือสายยางรัดเหนือแผลให้แน่น คลายผ้าที่รัดเป็นระยะๆ ทุก 15 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนบ้าง ถ้ามีเลือดออกที่แผลไม่มากก็อย่าไปห้ามเลือด เพราะเลือดจะช่วยนำพิษออกจากร่างกาย ถ้าเลือดออกน้อย อาจบีบนวดให้เลือดออกบ้าง ล้างแผลด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาด่างทับทิมแก่ๆ ห้ามให้ผู้ถูกงูกัดดื่มสุรา ยาดองเหล้าหรือยากล่อมประสาท ถ้าหยุดหายใจให้ช่วยหายใจทันที และถ้ารู้ว่าเป็นงูพิษกัด หรือไม่แน่ใจว่าเป็นงูอะไรกัด ให้ไปพบแพทย์ และถ้าจับงูได้ควรนำงูไปให้แพทย์ดูด้วย

การป้องกันโรคน้ำกัดเท้า ควรหลีกเลี่ยงการเดินย่ำน้ำสกปรกมาก ๆ แต่หากหลีกหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่รองเท้าบูทกันน้ำ หลังจากเดินย่ำน้ำทุกครั้ง ต้องล้างเท้าให้สะอาด และใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า หากมีแผล ให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบบาดแผลและใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น ทิงเจอร์ เบตาดีน เป็นต้น

ปัญหาสุขภาพในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำท่วมเช่นนี้ หากเราพอจะรู้ว่าอาจเกิดอะไรขึ้น แล้วได้มีการเตรียมตัวป้องกันไว้ล่วงหน้า และมีการระมัดระวังตัวกันอยู่เสมอ ก็จะทำให้ตัวเราปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะเกิดตามมา แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเราควรติดตามรับฟังข่าวสารการพยากรณ์สภาพดินฟ้าอากาศและสถาณการณ์น้ำจากทางสื่อและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะสามารถที่จะช่วยให้เราได้มีการเตรียมพร้อมรับกับสถาณการณ์ได้อย่างทันท่วงที

โรคเชื้อราที่เท้า (Tinea Pedis)

โรคเชื้อราที่เท่าหรือเป็นโรคที่รู้จักกันดีในชื่อ โรคน้ำกัดเท้าหรือฮ่องกงฟุต ที่เคยเห็นโฆษณาขายยาหลายยี่ห้อทางทีวี ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถก่อโรคที่ผิวหนังได้ โดยเฉพาะที่เท้า ซอกนิ้วเท้า และเล็บเท้า ถึงแม้บางครั้งโรคผิวหนังชนิดนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นจากเชื้อราเพียงอย่างเดียว แต่ก็เพราะว่ามักจะมีเชื้อแบคทีเรียมาร่วมด้วย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อราที่เท้านั้นก็คือ ความชื้นและความเปียก ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ทั้งในฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนอบอ้าว และช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกน้ำท่วมขัง คนที่ต้องลุยน้ำท่วมหรือเดินตามพื้นแฉะๆ โดยเท้าสัมผัสกับน้ำโดยไม่มีเครื่องป้องกัน ก็มักจะได้รับเชื้อโดยตรง อย่างเช่น พวกชาวนา หรือพวกที่ทำงานตามฟาร์ม และชาวประมง แล้วยังรวมไปถึงกลุ่มคนในอาชีพที่ต้องสวมรองเท้าทำงานอับไว้ทั้งวัน เพราะรองเท้าจะเป็นตัวก่อให้เกิดความอับชื้น ทำให้กลายเป็นที่เพาะเชื้อรากอย่างดี ซึ่งเชื้อรานี้จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพเหมาะสมเช่นนั้น นอกจากนี้ยังพบได้บ่อยในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคนสูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ เช่น คนไข้โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดตีบ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง มักจะมีความผิดปกติของเส้นเลือดที่เท้า รวมถึงผู้มีปัญหากระดูกเท้าผิดรูป เป็นต้น

ลักษณะอาการที่จะเกิดขึ้นมีได้หลายแบบ ได้แก่ ผื่นขาวยุ่ยที่ง่ามเท้า ตุ่มน้ำพองที่ฝ่าเท้า หรือฝ่าเท้าแดงมากจนเป็นขุย อาจมีโรคเชื้อราที่เล็บเท้าร่วมด้วย ซึ่งมีอาการที่สังเกตเห็นได้ชัด เช่น ใต้เล็บมีลักษณะหนา มีการหลุดร่อนระหว่างเล็บกับฐานเล็บ เล็บอาจมีการผุกร่อน หรือเปลี่ยนสีเช่นเป็นสีขุ่นขาวได้

โรคเชื้อราที่เท้านี้เกิดจากเชื้อราได้หลายชนิด แต่ที่พบบ่อยๆ คือ เชื้อยีสต์แคนดิดา เชื้อกลาก และเชื้อกลากเทียม การสังเกตอาการของโรคดังกล่าวจึงทำได้ค่อนข้างยาก แม้กระทั่งหมอผิวหนังที่ชำนาญยังอาจดูผิดพลาดได้ ทางที่ดีจึงควรได้รับการตรวจยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่เมื่อมีอาการผิดปกติที่เท้ามักคิดว่าเป็นโรคเชื้อราที่เท้าไว้ก่อน โดยที่ความจริงโรคที่เป็นอาจไม่ได้เกิดจากเชื้อรา และหลายคนมักซื้อยามาใช้เองแบบผิดๆ ถูกๆ นอกจากโรคไม่หายแล้ว ยังบดบังรอยโรคเดิม เมื่อมาหาหมอก็ทำให้การวินิจฉัยโรคได้ยากขึ้น

ถึงแม้เราจะใช้ยาทาจนดูเหมือนหายดี แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อเท้าอับชื้นขึ้นเมื่อใด เชื้อราก็จะลุกลามขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดอาการเป็นๆ หายๆ อยู่เป็นประจำ การดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับเป็นซ้ำอีกจึงมีความสำคัญ หากมีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับไต และควรรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดใช้ยาเอง แม้ว่าจะดีขึ้น การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมด มีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีกได้ง่าย ฉะนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดเท้าและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังสัมผัสกับน้ำก็เป็นทางช่วยไม่ให้เรากลับมาเป็นซ้ำอีก

 
Design by Pitchaya.net | Bloggerized by สูตรอาหาร | ขายลำไยอบแห้ง ลองกานอยด์ Health Lover นิ้วล็อค สารสกัดงาดำ เอมมูร่า เซซามิน