Showing posts with label allergy. Show all posts
Showing posts with label allergy. Show all posts

มาทำความรู้จักกับโรคภูมิแพ้กันดีกว่า


โรคภูมิแพ้ หรือโรคแพ้ (Allergy) หมายถึง โรคที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอาการไวผิดปกติต่อสิ่งซึ่งสามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ (Allergen) ซึ่งธรรมชาติสารเหล่านี้อาจไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้กับคนปกติทั่วไป โรคภูมิแพ้เกิดได้ทุกเพศทุกวัย เด็กอายุ 5 ถึง 15 ปี มักพบว่าเป็นบ่อยกว่าช่วงอายุอื่นๆ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่โรคแสดงออกหลังจากได้รับ "สิ่งกระตุ้น" มานานเพียงพอ อย่างไรก็ตามบางคนอาจเริ่มเป็นโรคภูมิแพ้ตอนเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้ โรคภูมิแพ้นั้นมิใช่โรคติดต่อ แต่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากรุ่นคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ มาสู่ลูกหลานได้ อาจพบว่าในครอบครัวนั้นมีสมาชิกป่วยเป็นโรคภูมิแพ้หลายคน ตัวการที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (Allergens) หรือ สิ่งกระตุ้น ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายทางระบบหายใจ การรับประทานอาหาร การสัมผัสทางผิวหนัง ทางตา ทางหู ทางจมูก หรือโดยการฉีดหรือถูกกัดต่อยผ่านผิวหนัง ตัวการที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้มีอยู่รอบตัว สามารถกระตุ้นอวัยวะต่างๆ จนก่อให้เกิดอาการแพ้ได้

อวัยวะที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้
ทางลมหายใจ ถ้าสิ่งกระตุ้นผ่านเข้ามาทางลมหายใจ ตั้งแต่รูจมูกลงไปยังปอด ก็จะทำให้เป็นหวัด คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันคอ เจ็บคอ ไอ มีเสมหะ เสียงแหบแห้ง และลงไปยังหลอดลม ทำให้หลอดลมตีบตัน เป็นหอบหืด
ทางผิวหนัง ถ้าสิ่งกระตุ้นเข้ามาทางผิวหนัง จะทำให้เกิดผื่นคัน น้ำเหลืองเสีย
ทางอาหาร ถ้าสิ่งกระตุ้นเข้ามาทางอาหาร จะทำให้ท้องเสีย อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด เสียไข่ขาวในเลือด อาจทำให้เกิดอาการทางระบบอื่นๆ ได้ เช่น ลมพิษ หน้าตาบวม
ทางตา ถ้าสิ่งกระตุ้นเข้ามาทางตา จะทำให้เกิดอาการแสบตา คันตา หนังตาบวม น้ำตาไหล

สารก่อภูมิแพ้ที่พบทั่วๆ ไป
สารก่อภูมิแพ้ซึ่งเป็น "ตัวการ" ของโรคภูมิแพ้ ที่มักพบบ่อยๆ ได้แก่
1. ฝุ่นบ้าน ตัวไรฝุ่นบ้าน มักปะปนอยู่ในฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 มม. มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
2. เชื้อรา มักปะปนอยู่ในบรรยากาศ ตามห้องที่มีลักษณะอับชื้น
3. อาหารบางประเภท อาหารบางอย่างจะเป็นตัวการของโรคภูมิแพ้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจำพวก
- อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารอีกจำพวกที่พบได้บ่อยคือ แมงดาทะเล ปลาหมึก อาจทำให้เกิดลมพิษผื่นคันได้บ่อยๆ เด็กบางคนอาจแพ้ไข่แมงดาทะเลอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้มีอาการบวมตามตัว หายใจไม่ออกเป็นต้น
- อาหารประเภทหมักดอง เช่น ผักกาดดอง เต้าเจี้ยว น้ำปลา เป็นต้น เด็กบางคนอาจแพ้เห็ดซึ่งจัดว่าเป็นราขนาดใหญ่ เด็กบางคนแพ้ไข่ขาว อาจทำให้เกิดอาการผื่นคันบนใบหน้าได้ บางคนอาจจะแพ้ผลไม้จำพวกที่มีรสเปรี้ยวจัด กลิ่นฉุนจัด เช่น ทุเรียน ลำใจ สตรอเบอรี่ กล้วยหอม และอื่นๆ
4. ยาแก้อักเสบ ยาที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้บ่อยๆ นั้นได้แก่ ยาปฎิชีวนะ พวกเพนนิซฺลิน เตตราไวคลิน นอกจากนั้นยังมีพวกซัลฟา ยาลดไข้แก้ปวดพวกแอสไพริน ไดไพโรน ยาระงับปวดข้อปวดกระดูก อาจทำให้เกิดลมพิษผื่นคันจองผิวหน้า พวกเซรุ่มหรือวัคซีนเป็นกันโรคโดยเฉพาะวัคซีนสกัดจากเลือดม้า เช่น เซรุ่มต้านพิษงู แพ้พิษสุนัขบ้า เป็นต้น
5. แมลงต่างๆ แมลงที่มักอาศัยอยู่ภายในบ้าน เช่น แมลงสาบ แมงมุม มด ยุง ปลวก และแมลงที่อาศัยอยู่นอกบ้าน เช่น ผึ้ง แตน ต่อ มดนานาชนิด เป็นต้น
6. เกสรดอกหญ้า ดอกไม้ ตอกข้าว วัชพืช สิ่งเหล่านี้มักปลิวอยู่ในอากาศตามกระแสลม ซึ่งสามารถพัดลอยไปได้ไกลๆ หรืออาจเป็นลักษณะขุยๆ ติดตามมุ้งลวดหน้าต่าง เกสรดอกหญ้าที่ปลิวมาตามสายลม
7. ขนสัตว์ ขนของสัตว์เลี้ยงเป็นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ เช่น ขนแมว ขนสุนัข ขนนก ขนเป็ด ขนไก่ ขนกระต่าง ขนนกหรือขนเป็ด ขนไก่ที่ตากแห้งใช้ยัดที่นอนและหมอน สำหรับนุ่น ฟองน้ำ ยางพารา ใยมะพร้าว เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานานก็จะสามารถเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้เช่นกัน

วิธีรักษาโรคภูมิแพ้
- หาต้นเหตุและหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ทีดีที่สุดคือการค้นหาสาเหตุของการแพ้นั้นให้พบ เช่น การสอบถามประวัติและอาการของโรค พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว เช่น บ้าน รถยนต์ โรงเรียน สัตว์เลี้ยง งานอดิเรก ตรวจร่างกายและทดสอบทางผิวหนัง เมื่อทราบว่าแพ้สารใดแล้ว ควรหลีกเลี่ยงสารที่ให้เกิดภูมิแพ้ที่ถูกต้องและอาการของโรคภูมิแพ้ก็จะทุเลา ในทางปฏิบัตินั้นการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้นทำได้ยาก เพราะชีวิตประจำวันนั้นต้องเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้กระจายอยู่รอบๆ ตัว เช่นฝุ่นบ้าน ไรฝุ่น เชื้อรา และอื่น ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้การรักษาอาการของโรคอันเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นและได้มักจะได้ผลดี แพทย์อาจให้รับประทานยาแพ้แพ้ แก้หอบ แก้ไอร่วมด้วย เป็นต้น
- ฉีดวัคซีนให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทาน
มีวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้อีกประการหนึ่งที่เป็นการรักษาได้ผลดีพอสมควร ได้แก่การหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้ให้พบแล้วนำสารก่อภูมิแพ้ที่ตรวจพบนี้นำมาผลิตวัคซีนให้ผู้ป่วย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานสารที่แพ้ (อิมมูโนบำบัด) คือ รักษาให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทานสารที่แพ้ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การรักษาเพื่อ ลดภูมิไว คือให้ร่างกายลดความไวต่อสารที่ก่อให้เกิดโรค

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://health.phahol.go.th

ห้องนอนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ (Allergy)

รู้มั๊ยคะว่าอากาศที่เราหายใจเข้าออกทุกวัน ปนเปื้อนด้วยสิ่งสกปรกและสารพิษมากมาก ที่จะก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ไม่เว้นแม้แต่ห้องนอนแสนรักของคุณเอง เวลานอนหลับบนที่นอนนุ่มๆ ของคุณ คุณไม่คิดหรอกว่ามันอาจเป็นตัวต้นเหตุสำคัญของอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ ทั้งเชื้อรา ฝุ่น ควัน ขี้แมลงสาบ และไอระเหยของสารเคมีบางอย่างภายในห้องนอนของคุณ ล้วนแต่ไปกระตุ้นภูมิแพ้และส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยเรื้อรังได้ แม้บางครั้งเราไปพบแพทย์ให้รักษาอาการแล้วก็ยังไม่หายขาดเพราะคุณต้องกลับไปนอนที่ห้องนอนของคุณเหมือนเดิมไปสัมผัสสิ่งที่อยู่ในห้องนอนเดิมๆ เพราะฉะนั้น คุณควรให้ความสำคัญกับการดูแลความสะอาดของห้องนอนให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัยจากสิ่งที่กระตุ้นภูมิแพ้ได้โดยวิธีดังต่อไปนี้

1. ภายในห้องนอนของคุณเต็มไปด้วยฝุ่นหรือไม่ การได้หลับพักผ่อนในห้องนอนที่มีอากาศสะอาดปราศจากฝุ่น จะช่วยทำให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ตื่นนอนขึ้นมารู้สึกสดชื่นหรือฟื้นคืนจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น

2. บริเวณพื้นห้องนอนปูด้วยพรมหรือไม่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะพรมจะกลายเป็นที่ดักฝุ่นและเป็นแหล่งของไรฝุ่นที่เป็นตัวก่อให้เกิดภูมิแพ้ แล้วยังดูแลรักษาความสะอาดได้ยากกว่าพื้นไม้หรือกระเบื้องอีกด้วย

3. คุณมีนิสัยชอบสูบบุหรี่ในห้อง ใช้น้ำยาหรือน้ำหอมปรับอากาศหรือไม่ ถ้าตอบว่าเป็นประจำ ขอบอกเลยว่าสิ่งเหล่านี้นับเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมหันต์ควรหลีกเลี่ยง

4. คุณเป็นคนชอบซักและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนบ่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และผ้านวม ควรถอดซักได้และควรเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ ควรซักด้วยน้ำสะอาดและอุณหภูมิที่ใช้ไม่ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภูมิที่ต่ำกว่านี้จะไม่สามารถกำจัดไรฝุ่นบนเครื่องนอนของคุณได้

5. การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน สีทาผนัง ตู้ โต๊ะ พรม ควรเลือกซื้อชนิดที่มีข้อความระบุว่าไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในการผลิต ปัจจุบันผู้ผลิตสินค้าบางประเภทเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวกันมากขึ้น ก็เป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภคเช่นเรา

6. คุณเคยเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทบ้างหรือไม่ บ้านไหนที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศในห้องได้ถ่ายเทบ้าง หรือหากปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาบ้างสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี และจะดีอย่างยิ่งถ้ามีเครื่องฟอกอากาศ หรือใช้แผ่นดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศฟิลทรีตชนิดที่ใช้กับ เครื่องปรับอากาศ และต้องไม่ลืมคอยเปลี่ยนแผ่นกรองประจำตามสภาพการใช้งาน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศให้ดีอยู่เสมอ

แค่คุณหมั่นดูแลห้องนอนของคุณได้ตามที่กล่าวมาแล้วทั้ง 7 ข้อ รับรองคุณจะเป็นบุคคลที่ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้อย่างแน่นอน

 
Design by Pitchaya.net | Bloggerized by สูตรอาหาร | ขายลำไยอบแห้ง ลองกานอยด์ Health Lover นิ้วล็อค สารสกัดงาดำ เอมมูร่า เซซามิน